วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!

คำแนะนำในการใช้เฟซบุ๊กอย่างปลอดภัยที่สุดโดยระบุถึง11 สิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ควรมี หรือเผยแพร่บนโซเชียลทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยจากมิจฉาชีพนั่นเอง มีอะไรบ้างไปดูเลย http://winne.ws/n7215

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!


วันนี้เราBAABINมีอะไรมาเตือนให้ชาวเฟซบุ๊กได้รู้กันเล็กน้อยไม่นานมานี่เว็บไซต์indy100ของประเทศอังกฤษ ได้ให้คำแนะนำในการใช้เฟซบุ๊กอย่างปลอดภัยที่สุดโดยระบุถึง11 สิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ควรมี หรือเผยแพร่บนโซเชียลทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยจากมิจฉาชีพนั่นเอง มีอะไรบ้างไปดูเลย


1. วันเกิดข้อมูลวันเกิดเป็นตัวต่อชิ้นสำคัญที่เมื่อนำมารวมเข้ากับชื่อและที่อยู่ ยิ่งทำให้มิจฉาชีพสามารถใช้ในการเข้าถึงบัญชีธนาคารและข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ได้โดยง่าย
2. เบอร์โทรศัพท์เป็นเรื่องดีเพื่อให้ตำรวจติดตามคุณได้ยามเกิดเหตุแต่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือสายจากพวกสะกดรอยโรคจิตที่จะโทรมารบกวนคุณอย่างไม่หยุดหย่อน
3. เพื่อนส่วนใหญ่ (ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์)ศาสตราจารย์ โรบิน ดันบาร์ ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่าจากการศึกษาพบว่าตามทฤษฎีแล้วมนุษย์สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่คงที่ได้กับคนจำนวน 150 คนโดยประมาณศาสตราจารย์ โรบินศึกษาผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวน 3,375 คนพบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใช้เหล่านี้จะมีเพื่อนจำนวน 4.1 คนที่คิดว่าสามารถพึ่งได้ และมีเพื่ออีกราว 13.6 คนที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจในช่วงเวลาที่เราเกิดวิกฤตทางอารมณ์ดังนั้นจากรายงานจึงสรุปได้ว่า การลบผู้ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย เป็นวิธีการที่ดีในการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีความสุข
4. ภาพลูกๆ หรือสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็ก แนช ผู้อำนวยการสถาบันอินเตอร์เน็ตมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ตั้งคำถามสำคัญที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ข้อมูลอะไรที่เด็ก ๆ อยากเห็นเกี่ยวกับตัวเองในโลกออนไลน์เมื่อเขาโตขึ้น?” คนยุคก่อนไม่มีใครสนเรื่องเหล่านี้เลย และยังมีเรื่องของสิทธิที่กฎหมายในบางประเทศให้ความคุ้มครองด้วย

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!


5. สถานศึกษา ที่เด็ก ๆ ไปเรียนการล่วงละเมิดทางเพศเด็กมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน รายงานจากตำรวย ระหว่างปี 2013-2014 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากถึง 36,429 คดีในอังกฤษและใกล้เคียงนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ให้ผู้ใช้เฟซเปิดเผยโรงเรียนที่เด็ก ๆ ไป
6. โลเคชั่นเซอร์วิสเว็บไซต์เทคครันช์ รายงานเมื่อปี 2558 มีผู้ใช้กว่าแอพเสริมตัวนี้ถึง 500 ล้านคนผ่านเฟซบุ๊กบนอุปกรณ์มือถือ นั้นหมายถึงว่ามีผู้ใช้ถึง 500 ล้านคน ที่จะเปิดเผยสถานที่อยู่ของตนเองโดยอัตโนมัติ ให้กับผู้ที่ไม่ประสงค์ดีกับคุณได้รู้ตำแหน่งของคุณก็เป็นได้

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!


7. เจ้านายประเด็นคลาสสิก สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยรายงานระบุว่า เฟซบุ๊ก เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ในบางขณะที่ผู้ใช้ต้องการใช้เพื่อการผ่อนคลาย แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้านายสามารถเข้าถึงหน้าฟีดข่าวของคุณได้ เมื่อนั้นเจ้านายคุณก็ส ามารถเข้าถึงสเตตัสที่คุณโพสต์บ่นหน้าวอลล์ยิ่งถ้าหากเนื้อความนั้นเกี่ยวกับงานอาจมีผลกระทบกับหน้าที่การงานของคุณก็ได้

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!


8. หยุดแท็กโลเคชั่นผู้ใช้มักลืมไปว่าการแท็กสถานที่ต่าง ๆ ลงในสเตตัส มันเปรียบเสมือนกับการให้ที่อยู่คุณโดยไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าชอบทำที่บ้านนี่คือรู้เลยว่าที่อยู่คืออะไร ที่ไหน
9. สถานที่และวันเวลาที่คุณไปเที่ยวพักผ่อนตามรายของเว็บไซต์ดิสอิส มันนีย์ เว็บไซต์ด้านการเงินระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ถูกปล้นระหว่างการเดินทางในช่วงวันหยุดอาจไม่ได้รับการอนุมัติเงินประกัน หากผู้เอาประกันโพสต์แผนการท่องเที่ยวผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากบริษัทประกันจะพิจารณาว่า ผู้เอาประกันไม่ได้ป้องกันตัวจากผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างเพียงพอโดยการโพสต์ข้อมูลต่อสาธารณะ
10. สถานะความสัมพันธ์หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหลักก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เสริมเพื่อให้เข้ากับประเทศไทยเลขบัตรประจำตัวประชาชน อย่างลงในเฟสบุ๊คหรือเผยแพร่ให้ใครในโลกโซเชียลโดยเด็ดขาด สมัยนี้ไว้ใจใครได้ยาก* การตั้งค่า Facebook ให้อ่านข้อมูลเราได้ “เฉพาะเพื่อน – Friends” เท่านั้น ถือเป็นการกรองความปลอดภัยเราได้ระดับหนึ่ง** เรื่องบน Facebook ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่อยู่บนพื้นที่สาธารณะ การโพสต์อะไรนั้นต้องพึงระวังถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย

สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!


สถานะความสัมพันธ์หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหลักก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เสริมเพื่อให้เข้ากับประเทศไทยเลขบัตรประจำตัวประชาชน อย่างลงในเฟสบุ๊คหรือเผยแพร่ให้ใครในโลกโซเชียลโดยเด็ดขาด สมัยนี้ไว้ใจใครได้ยาก* การตั้งค่า Facebook ให้อ่านข้อมูลเราได้ “เฉพาะเพื่อน – Friends” เท่านั้น ถือเป็นการกรองความปลอดภัยเราได้ระดับหนึ่ง** เรื่องบน Facebook ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่อยู่บนพื้นที่สาธารณะ การโพสต์อะไรนั้นต้องพึงระวังถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย

โดย : Poundtawan

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เตือน "20 อาหาร" ที่ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น นอกจากเสียคุณค่า ซ้ำยังติดเชื้อราไม่รู้ตัว

เตือน "20 อาหาร" ที่ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น นอกจากเสียคุณค่า ซ้ำยังติดเชื้อราไม่รู้ตัว

"ตู้เย็น" นับเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมากๆ สำหรับทุกครัวเรือนในปัจจุบัน เรียกว่าขาดไม่ได้เลยทีเดียว หลายๆ คนเคยชินที่จะนำอาหารทุกอย่างแช่ในตู้เย็น เพื่อหวังให้ช่วยรักษาคุณภาพของอาหารไว้ได้นานมากขึ้น เป็นเรื่องจริงที่ความเย็น ช่วยรักษาคุณภาพของอาหารไว้ได้ แต่ไม่ใช่กับอาหารทุกชนิด เพราะยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่ไม่ควรแช่ในตู้เย็นเลย ซึ่งทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีด้วยซ้ำ มีอาหารชนิดใดบ้างที่ไม่ควรแช่ในตู้เย็น แม่บ้านทั้งหลายไม่ควรพลาด

1. มันฝรั่ง
ความหนาวเย็นจะทำให้แป้งในมันฝรั่งกลายเป็นเนื้อทรายรวมถึงสูญเสียรสหวานไป ทำให้มันฝรั่งเสียรสชาติที่ดี ดังนั้นควรเก็บมันฝรั่งไว้ในถุงกระดาษและเก็บไว้ในที่ที่แห้งและเย็น หรือเก็บไว้ในลิ้นชักจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


2. น้ำผึ้ง
หากเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็น น้ำผึ้งจะตกผลึกแข็งและจับตัวเป็นก้อนเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่หนาวเย็น ดังนั้นเพียงแค่ตั้งขวดน้ำผึ้งไว้นอกตู้เย็นและเก็บให้พ้นแสงแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ จะได้เก็บสารให้ความหวานตามธรรมชาตินี้ได้อย่างสมบูรณ์


3. มะเขือเทศ
ความเย็นในตู้เย็นจะทำให้มะเขือเทศเสียรสชาติ จนในที่สุดมะเขือเทศจะสุกงอมและเหี่ยวในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นเก็บมะเขือเทศไว้ด้านนอกที่แห้งและห่างจากแสงแดดจะเหมาะสมกว่า


4. แอปเปิ้ล
เหตุผลเดียวกับมะเขือเทศคือหากเก็บแอปเปิลไว้ในตู้เย็นจะทำให้มันเสียรสชาติ แต่ถ้าหากอยากจะรับประทานให้ได้รสชาติหวานเย็น ก็เพียงปอกแล้วนำไปแช่ตู้เย็นก่อนรับประทานสัก 30 นาที


5. เมลอน
เราควรจัดเก็บเมลอนไว้บนเคาท์เตอร์เพื่อรสชาติที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับแตงโม แคนตาลูป โดยงานวิจัยของ USDA ยังพบว่าการเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องจะไม่ทำให้เมลอนสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระ และเมื่อหั่นเป็นชิ้นก็ควรเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-4 วัน


6. หัวหอม
หัวหอมที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกหรือหั่น ไม่ควรนำไปแช่เย็นเนื่องจากความชื้นในตู้เย็นจะทำให้เกิดเป็นรา นิ่มและเละ และกลิ่นของมันจะทำให้อาหารอื่นมีกลิ่นตามไปด้วย ที่ๆ เหมาะสมที่สุดสำหรับการเก็บหัวหอมคือการเก็บมันไว้ในถุงกระดาษที่มืด และเย็นหรือเก็บในลิ้นชัก สำหรับหัวที่หั่นแล้วก็ใส่ในถุงเก็บไว้ในช่องเก็บผัก


7. น้ำมัน
ทั่วไปแล้วควรวางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติมากกว่า แต่สำหรับน้ำมันประเภทที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ เช่นน้ำมันดอกคำฝอยหรือน้ำมันดอกทานตะวัน ก็จะดีกว่าถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เย็น เช่นตำแหน่งของประตูตู้เย็น


8. ซอสมะเขือเทศและซอสพริก
ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเนื่องจากมีน้ำส้มสายชูจำนวนมากที่ป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียอยู่แล้ว โดยเฉพาะซอสพริกนั้น ความเผ็ดร้อนของพริกจะมีศักยภาพมากที่สุด เมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง ดังนั้นควรเก็บให้อยู่ในตู้กับข้าวก็พอแล้ว


9. แตงโม
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง เนื่องจากมีน้ำเยอะ เป็นแหล่งวิตามินเอและวิตามินซี แต่การนำแตงโมไปแช่ไว้ในตู้เย็นจะทำแตงโมสูญเสียสารเหล่านั้นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไปอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งเมื่อมันอยู่ในตู้เย็นมีโอกาสที่มันจะแตกและกลายเป็นจุดๆ ดีที่สุดคือการเก็บแตงโมไว้นอกตู้เย็น แต่ถ้าหั่นแล้วคุณสามารถนำมันไปแช่ตู้เย็นได้


10. กาแฟ
ไม่ควรแช่กาแฟไว้ในตู้เย็น เพราะจะทำให้กาแฟเสียรสชาติที่ควรจะเป็น แถมยังทำให้กลิ่นของกาแฟนั้นเปลี่ยนไป ไม่หอมเท่าที่ควรด้วย เพราะกาแฟได้ดูดกลิ่นจากตู้เย็นเข้ามาเก็บไว้นั่นเอง ทางที่ดีเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิดมิดชิดจะดีกว่า






11. ถั่ว
อุณหภูมิที่เย็นอาจช่วยป้องกันการเหม็นหืนจากน้ำมันธรรมชาติในถั่วได้ แต่ก็สามารถกำจัดรสชาติถั่วได้เช่นกัน นอกจากนี้เปลือกถั่วก็ยังสามารถดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ ในตู้เย็นไว้อีกด้วย ทางที่ดีควรจัดเก็บถั่วไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทในตู้กับข้าว หากมีถั่วจำนวนมากในตู้เย็นก็ควรคั่วถั่วในกระทะก่อนที่จะนำมาใช้


12. กระเทียม
การนำกระเทียมไปแช่ไว้ในตู้เย็นจะทำให้กระเทียมงอกเป็นต้นขึ้นมาและขึ้นราได้ง่าย แถมยังทำให้เนื้อของกระเทียมนั้นหดเร็วขึ้นด้วย เราสามารถรักษารสชาติของกระเทียมได้ โดยการจัดเก็บไว้ในภาชนะที่แห้ง เย็น และมีอากาศถ่ายเท เมื่อมีการปอกหัวกระเทียมออกก็ควรใช้ให้หมดภายใน 10 วัน


13. ใบโหระพาและใบกะเพรา
เพราะจะทำให้ใบโหระพานั้นแห้งและเหี่ยวไว อีกทั้งใบโหระพายังดูดซับกลิ่นจากตู้เย็นเข้ามาไว้ในตัวอีกด้วย เช่นนั้นก็จะนำไปประกอบอาหารไม่ได้อีกต่อไป


14. ขนมปัง
การเก็บขนมปังไว้ในตู้เย็นจะทำให้ขนมปังแข็งจนเกินไป ดังนั้นเก็บไว้นอกตู้เย็นจะได้ขนมปังที่รสชาติดีกว่า หรือหากว่าคุณมีขนมปังจำนวนมากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้โดยใช้ผ้าขาวบางห่อก่อนที่จะนำไปแช่


15. กล้วย
ถ้ากล้วยยังมีเปลือกสีเหลืองปกติให้วางกล้วยไว้ในอุณหภูมิห้อง แต่เมื่อมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก็สามารถแช่ในช่องแช่แข็งได้


16. เหล้า
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดรวมถึงเหล้าที่ไว้หมักเนื้อสัตว์ต่างๆ หรือปรุงอาหาร ไม่ควรนำเหล้าไปแช่ตู้เย็น เพราะสีและรสชาติเปลี่ยนไปแน่นอน ควรวางไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติก็พอแล้ว


17. ฟักทอง
The Canadian Produce Marketing Association (CPMA) บอกไว้ว่า วิธีเก็บผักผลไม้สดอย่างฟักทอง ต้องเก็บไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี เน้นพื้นที่แห้งๆ ไม่โดนแดด ไม่ร้อนอบ จึงจะช่วยยืดอายุฟักทองได้ดี


18. ส้ม
ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น แต่ควรวางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ โดยใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น เนื่องจากเมื่อเก็บพวกมันไว้ในตู้เย็นมันเสี่ยงที่จะเป็นเชื้อราได้ง่าย


19. ผักกาดดอง
เป็นอาหารที่มีสารกันบูดและน้ำส้มสายชูในปริมาณสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น แต่ก็สามารถนำไปแช่ในตู้เย็นได้ แนะนำให้วางไว้ในตู้เย็นบริเวณประตูตู้เย็นก็พอ


20. ซอสถั่วเหลือง
เครื่องปรุงรสอาหารอีกประเภทหนึ่งที่มีสารกันบูดและเกลือดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็น




ขอขอบคุณผู้เรียบเรียง : อำมฤทธิ์ สุระสังธ์