สื่ออังกฤษเผย!!11 สิ่งต่อไปนี้คุณไม่ควรนำมาลง"เฟซบุ๊ก" หากมีลบด่วนเลย!!
คำแนะนำในการใช้เฟซบุ๊กอย่างปลอดภัยที่สุดโดยระบุถึง11
สิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ควรมี
หรือเผยแพร่บนโซเชียลทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
และความปลอดภัยจากมิจฉาชีพนั่นเอง มีอะไรบ้างไปดูเลย http://winne.ws/n7215
วันนี้เราBAABINมีอะไรมาเตือนให้ชาวเฟซบุ๊กได้รู้กันเล็กน้อยไม่นานมานี่เว็บไซต์indy100ของประเทศอังกฤษ ได้ให้คำแนะนำในการใช้เฟซบุ๊กอย่างปลอดภัยที่สุดโดยระบุถึง11 สิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ควรมี หรือเผยแพร่บนโซเชียลทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยจากมิจฉาชีพนั่นเอง มีอะไรบ้างไปดูเลย
1. วันเกิดข้อมูลวันเกิดเป็นตัวต่อชิ้นสำคัญที่เมื่อนำมารวมเข้ากับชื่อและที่อยู่ ยิ่งทำให้มิจฉาชีพสามารถใช้ในการเข้าถึงบัญชีธนาคารและข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ได้โดยง่าย
2. เบอร์โทรศัพท์เป็นเรื่องดีเพื่อให้ตำรวจติดตามคุณได้ยามเกิดเหตุแต่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือสายจากพวกสะกดรอยโรคจิตที่จะโทรมารบกวนคุณอย่างไม่หยุดหย่อน
3. เพื่อนส่วนใหญ่ (ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์)ศาสตราจารย์ โรบิน ดันบาร์ ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่าจากการศึกษาพบว่าตามทฤษฎีแล้วมนุษย์สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่คงที่ได้กับคนจำนวน 150 คนโดยประมาณศาสตราจารย์ โรบินศึกษาผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวน 3,375 คนพบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใช้เหล่านี้จะมีเพื่อนจำนวน 4.1 คนที่คิดว่าสามารถพึ่งได้ และมีเพื่ออีกราว 13.6 คนที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจในช่วงเวลาที่เราเกิดวิกฤตทางอารมณ์ดังนั้นจากรายงานจึงสรุปได้ว่า การลบผู้ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย เป็นวิธีการที่ดีในการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีความสุข
4. ภาพลูกๆ หรือสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็ก แนช ผู้อำนวยการสถาบันอินเตอร์เน็ตมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ตั้งคำถามสำคัญที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ข้อมูลอะไรที่เด็ก ๆ อยากเห็นเกี่ยวกับตัวเองในโลกออนไลน์เมื่อเขาโตขึ้น?” คนยุคก่อนไม่มีใครสนเรื่องเหล่านี้เลย และยังมีเรื่องของสิทธิที่กฎหมายในบางประเทศให้ความคุ้มครองด้วย
5. สถานศึกษา ที่เด็ก ๆ ไปเรียนการล่วงละเมิดทางเพศเด็กมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน รายงานจากตำรวย ระหว่างปี 2013-2014 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากถึง 36,429 คดีในอังกฤษและใกล้เคียงนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ให้ผู้ใช้เฟซเปิดเผยโรงเรียนที่เด็ก ๆ ไป
6. โลเคชั่นเซอร์วิสเว็บไซต์เทคครันช์ รายงานเมื่อปี 2558 มีผู้ใช้กว่าแอพเสริมตัวนี้ถึง 500 ล้านคนผ่านเฟซบุ๊กบนอุปกรณ์มือถือ นั้นหมายถึงว่ามีผู้ใช้ถึง 500 ล้านคน ที่จะเปิดเผยสถานที่อยู่ของตนเองโดยอัตโนมัติ ให้กับผู้ที่ไม่ประสงค์ดีกับคุณได้รู้ตำแหน่งของคุณก็เป็นได้
7. เจ้านายประเด็นคลาสสิก สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยรายงานระบุว่า เฟซบุ๊ก เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ในบางขณะที่ผู้ใช้ต้องการใช้เพื่อการผ่อนคลาย แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้านายสามารถเข้าถึงหน้าฟีดข่าวของคุณได้ เมื่อนั้นเจ้านายคุณก็ส ามารถเข้าถึงสเตตัสที่คุณโพสต์บ่นหน้าวอลล์ยิ่งถ้าหากเนื้อความนั้นเกี่ยวกับงานอาจมีผลกระทบกับหน้าที่การงานของคุณก็ได้
8. หยุดแท็กโลเคชั่นผู้ใช้มักลืมไปว่าการแท็กสถานที่ต่าง ๆ ลงในสเตตัส มันเปรียบเสมือนกับการให้ที่อยู่คุณโดยไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าชอบทำที่บ้านนี่คือรู้เลยว่าที่อยู่คืออะไร ที่ไหน
9. สถานที่และวันเวลาที่คุณไปเที่ยวพักผ่อนตามรายของเว็บไซต์ดิสอิส มันนีย์ เว็บไซต์ด้านการเงินระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ถูกปล้นระหว่างการเดินทางในช่วงวันหยุดอาจไม่ได้รับการอนุมัติเงินประกัน หากผู้เอาประกันโพสต์แผนการท่องเที่ยวผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากบริษัทประกันจะพิจารณาว่า ผู้เอาประกันไม่ได้ป้องกันตัวจากผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างเพียงพอโดยการโพสต์ข้อมูลต่อสาธารณะ
10. สถานะความสัมพันธ์หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหลักก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เสริมเพื่อให้เข้ากับประเทศไทยเลขบัตรประจำตัวประชาชน อย่างลงในเฟสบุ๊คหรือเผยแพร่ให้ใครในโลกโซเชียลโดยเด็ดขาด สมัยนี้ไว้ใจใครได้ยาก* การตั้งค่า Facebook ให้อ่านข้อมูลเราได้ “เฉพาะเพื่อน – Friends” เท่านั้น ถือเป็นการกรองความปลอดภัยเราได้ระดับหนึ่ง** เรื่องบน Facebook ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่อยู่บนพื้นที่สาธารณะ การโพสต์อะไรนั้นต้องพึงระวังถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย
สถานะความสัมพันธ์หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหลักก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เสริมเพื่อให้เข้ากับประเทศไทยเลขบัตรประจำตัวประชาชน อย่างลงในเฟสบุ๊คหรือเผยแพร่ให้ใครในโลกโซเชียลโดยเด็ดขาด สมัยนี้ไว้ใจใครได้ยาก* การตั้งค่า Facebook ให้อ่านข้อมูลเราได้ “เฉพาะเพื่อน – Friends” เท่านั้น ถือเป็นการกรองความปลอดภัยเราได้ระดับหนึ่ง** เรื่องบน Facebook ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่อยู่บนพื้นที่สาธารณะ การโพสต์อะไรนั้นต้องพึงระวังถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย
โดย : Poundtawan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น