วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ค้นพบถ้ำ-ที่เป็นแหล่งกบดานสุดท้ายของ “มนุษย์นีเอนเดอร์ทัล” 
(ถูกปิดตายมานานกว่า 40,000 ปี)


นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยิบรอลตาร์ได้ทำการสำรวจ “ถ้ำแวนการ์ด” (Vanguard Cave) ซึ่งเป็นถ้ำ 1 ใน 4 ของกลุ่มถ้ำที่ประกอบกันเป็นโขดหินยิบรอลตาร์ (Rock of Gibraltar) เพื่อกำหนดขนาดที่แท้จริงของถ้ำและสำรวจห้องหับที่ยังคงอาจลงเหลืออยู่ภายในถ้ำ ทว่าล่าสุด พวกเขาก็ได้เจอห้องที่ถูกปิดตายมานานกว่า 40,000 ปี ซึ่งภายในมีหลักฐานของมนุษย์ “นีแอนเดอร์ทัล” อยู่ด้วย

ถ้ำแวนการ์ด

“มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล” (Neanderthals) เป็นญาติสนิทของมนุษย์ยุคปัจจุบัน แต่สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว โดยในครั้งนี้นักโบราณคดีได้ค้นพบห้องที่ถูกปิดผนึกด้วยทรายและตะกอน และมีแนวโน้มว่ามนุษย์ยุคนีแอนเดอร์ทัลจะใช้ห้องดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยในช่วงที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ในทวีปยูเรเซีย หรือเมื่อ 200,000 ถึง 40,000 ปีก่อน

โดยห้องที่ค้นพบนั้น อยู่ตรงบริเวณหลังคาของถ้ำแวนการ์ด มีประตูเป็นโพรงที่ต้องคลานเข้าไปเท่านั้น ก่อนจะพบห้องขนาดยาว 13 เมตร สูง 1.8 เมตร ภายในเต็มไปด้วยหินงอก-หินย้อยจำนวนมาก ขึ้นอยู่บริเวณพื้นห้องและเพดานห้อง รวมทั้งซากของสัตว์หลายชนิด อาทิ แมวป่าลิงซ์, ไฮยีนา และแร้งกริฟฟอน นอกจากนี้ยังมีรอยขีดข่วนของกรงเล็บจากสัตว์ชนิดหนึ่งบนกำแพงห้อง อีกทั้งร่องรอยของการเกิดแผ่นดินไหวโบราณในห้องนี้ด้วย

ภาพจำลองของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล

แต่สิ่งที่ดูจะทำให้นักโบราณคดีตื่นเต้นที่สุดคือ การค้นพบหอยทากทะเลในห้องดังกล่าว ทั้งที่จริงแล้วห้องนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 20 เมตร แถมเมื่อ 40,000 ปีก่อน ระดับน้ำทะเลยังต่ำกว่าปัจจุบัน รวมถึงยังมีชิ้นส่วนกระดูกของแมวน้ำ วาฬ และโลมา ดังนั้น นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานว่าการพบซากสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่า มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมีความสามารถในการล่าสัตว์จากท้องทะเลได้

 ทั้งนี้ ในตลอดระยะเวลา 9 ปีของการสำรวจ นักโบราณคดีเคยพบเศษซากและร่องรอยการอยู่อาศัยที่น่าสนใจของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลหลายอย่าง เช่น ฟันของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลที่น่าจะอายุประมาณ 4 ขวบ ซึ่งน่าจะถูกไฮซีนาจู่โจมและลากมากินข้างใน ตลอดจน อุปกรณ์ก่อไฟ เครื่องมือหิน เครื่องประดับ และชุดที่ทำจากซากสัตว์ รวมไปถึงร่องรอยการแกะสลักหินที่อาจเป็นงานศิลปะของมนุษย์ยุคแรก ๆ

(ภาพใหญ่) ภาพภายนอกของถ้ำที่รวมต่อกันเป็นโขดหินยิบรอลตาร์, (ภาพเล็กบน) รอยข่วนของสัตว์กินเนื้อที่ค้นพบในถ้ำ, (ภาพเล็กล่าง) รอยแกะสลักของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล

ไคลฟ์ ฟินเลย์สัน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติยิบรอลตาร์กล่าวว่า “การค้นพบในครั้งนี้และตลอด 9 ปีที่ผ่านมา กำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ผู้คนมีต่อมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลว่าเป็นพวกสมองทึบ ดุร้าย และคล้ายกับลิง เพราะสิ่งที่เราค้นพบนั้นสะท้อนว่าพวกเขามีความสามารถมากพอที่จะทำเกือบทุกสิ่งอย่างที่มนุษย์สมัยใหม่ทำได้ ซึ่งนั่นคือตัวบ่งชี้ว่าพวกเขามีความเป็นมนุษย์ในทุก ๆ ด้าน”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการค้นพบเศษซากของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ มากมาย แต่ยังไม่มีการค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลในครั้งนี้ ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่า การสำรวจของพวกเขาเป็นมากกว่าการค้นหาโครงกระดูก แต่มันเป็นการค้นหาว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเป็นใคร อาศัยอยู่อย่างไร และสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ได้อย่างไร ซึ่งกว่าจะรู้คำตอบก็อาจจะต้องใช้เวลาในการขุดค้นยาวนานอีกกว่าหลายทศวรรษจึงจะแล้วเสร็จ

ขอขอบคุณข้อมูล : © Newspaper WordPress Theme by TagDiv


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น