ในที่สุด พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้เปิดตัวคณะผู้นำชุดใหม่ที่จะปกครองจีนไปอีก 5 ปี
คณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo Standing Committee) มีอำนาจสูงเทียบเท่ากับคณะรัฐมนตรีในประเทศอื่น ๆ โดยในบริบทการเมืองจีน พวกเขาถือว่าเป็นชนชั้นปกครองสูงสุด นอกจากต้องมีประวัติเส้นทางการเมืองที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขาต้องสามารถเอาชนะคู่แข่งภายในพรรคตัวเองมาได้ด้วย
ไม่แปลกที่มีการปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารชุดใหม่ทุกครั้งที่ประธานาธิบดีจีนเข้ารับตำแหน่งในสมัยใหม่ โดยในครั้งนี้ ทีมผู้บริหารซึ่งนายสี จิ้นผิง เป็นคนเลือกล้วนเป็นสมาชิกใหม่ ยกเว้น จ้าว เล่อจี้ และหวัง ฮู่หนิง
หลี่ เฉียง
อายุ 63 ปี
ตำแหน่ง : เลขาธิการพรรคประจำนครเซี่ยงไฮ้
หลี่ เฉียง ถูกมองว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่นายสีเชื่อใจที่สุด เมื่อครั้งที่นายสีเคยเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ในมณฑลเจ้อเจียง นายหลี่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานของเขา
การจัดการวิกฤตโควิดของเขาที่เซี่ยงไฮ้ในช่วงที่ผ่านมาในปีนี้โดนประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้คาดเดากันว่าอาจส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของเขา
อย่างไรก็ดี การแต่งตั้งในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการจงรักภักดีต่อนายสีเป็นผลดีต่อเขา ในปีหน้า จะมีการยืนยันตำแหน่งของแต่ละคนในคณะกรรมการกรมการเมือง หลายคนเชื่อว่านายหลี่จะได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
จ้าว เล่อจี้
อายุ 65 ปี
ตำแหน่ง : เลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยศูนย์กลางพรรค
นายจ้าวถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งในหมู่ชนชั้นปกครองจีน และมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมณฑลส่านซีเหมือนกับนายสี
หลังเข้าร่วมรัฐบาลมณฑลชิงไห่ เขาไต่เต้าอย่างรวดเร็วจนได้เป็นผู้ว่าการมณฑลชิงไห่ขณะอายุ 42 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ว่าการมณฑลที่อายุน้อยที่สุดที่เคยมีมา
นายจ้าวเป็นหัวหน้าคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตของพรรค มีหน้าที่รักษาระเบียบวินัยของพรรค และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นผู้รายงานปราบปรามเจ้าหน้าที่อาวุโสที่รับสินบนหลายราย
หวัง ฮู่หนิง
อายุ 67 ปี
ตำแหน่ง : เลขาธิการสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์
นายหวังเป็นอดีตนักวิชาการที่เริ่มไต่เต้าเลื่อนตำแหน่งหลังทำงานเข้าตาเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนในพรรค ก่อนจะกลายมาเป็นที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน
ในฐานะนักทฤษฎีการเมืองของพรรค นายหวังถือเป็นมันสมองผู้อยู่เบื้องหลังหลายแนวคิดของพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึง "ทฤษฎี 3 ตัวแทน" (Three Represents) ของเจียง เจ๋อหมิน, "แนวคิดการพัฒนาด้วยหลักวิทยาศาสตร์" (Scientific Outlook on Development) ของหู จิ่นเทา และ "แนวคิดของ สี จิ้นผิง เกี่ยวกับสังคมนิยมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบจีนสำหรับศักราชใหม่"
เชื่อกันว่าโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ก็เป็นแนวคิดของเขาด้วย
ว่ากันว่าเขาสามารถเข้ากับทุกฝักฝ่ายในพรรคได้
ไช่ ฉี
อายุ 66 ปี
ตำแหน่ง : นายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่ง
นายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดและเคยทำงานกับผู้นำจีนทั้งที่มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจ้อเจียง
การที่กรุงปักกิ่งสามารถจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวได้ขณะโควิดกำลังระบาดอยู่ถือเป็นความสำเร็จของเขา
อย่างไรก็ดี นโยบายเขาก็เคยทำให้เกิดกรณีถกเถียงโดยเมื่อปี 2017 เขาเริ่มแผนการพยายามลดจำนวนประชากรในเมืองหลวงของจีนซึ่งในที่สุดแล้วกดดันทำให้คนที่มีรายได้น้อยในกรุงปักกิ่งต้องอพยพออกไป
ติง เซวียเสียง
อายุ 60 ปี
ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์กลางพรรค
วิศวกรผู้นี้เริ่มต้นเส้นทางการเมืองที่ศูนย์วิจัยที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลที่นครเซี่ยงไฮ้
แม้จะไม่มีประสบการณ์เป็นเลขาธิการพรรคระดับมณฑลหรือผู้ว่าการมณฑล แต่เขาได้กลายมาเป็นเลขาธิการของนายสีในปี 2007 และจากปี 2014 เป็นต้นมา เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดี
เขาเป็นผู้สนับสนุน "แนวคิดของ สี จิ้นผิง เกี่ยวกับสังคมนิยมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบจีนสำหรับศักราชใหม่" ตัวยง นักสังเกตการณ์หลายคนบอกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายติงใช้เวลาอยู่กับผู้นำจีนมากกว่าเจ้าหน้าที่คนไหน ๆ โดยติดตามนายสีไปทั้งในจีนและต่างประเทศ
หลี่ ซี
อายุ 66 ปี
ตำแหน่ง : เลขาธิการพรรคประจำมณฑลกวางตุ้ง
หลี่ ซี มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวของนายสี มองกันว่านายหลี่เป็นผู้แก้วิกฤตหลังกรณีอื้อฉาวเมื่อปี 2017 ที่รัฐบาลมณฑลเหลียวหนิงออกมายอมรับว่าปลอมแปลงข้อมูลเศรษฐกิจ
นายหลี่เคยเป็นหัวหน้าพรรคในเมืองหยานอันซึ่งเหมา เจ๋อตุง เคยใช้เป็นสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นเมืองที่นายสี เคยใช้ถูกใช้แรงงานหนักอยู่ 7 ปี