วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นึกว่าเป็นตุ๊กตา แต่กลับกลายเป็นมัมมี่เด็ก

นึกว่าเป็นตุ๊กตา แต่กลับกลายเป็นมัมมี่เด็ก


เมื่อกลุ่มพรานป่าเจอวัตถุลึกลับ นึกว่าเป็นตุ๊กตา แต่กลับกลายเป็นมัมมี่เด็ก นำไปสู่ความจริงสะพรึงโลก!

ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์มันจะต้องเรียนกันแบบ อ่านหนังสือเล่มหนาๆ สำรวจวัตถุโบราณ เพียงอย่างเดียว แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง ว่าพวกวัตถุโบราณต่างๆ เรารู้ได้ยังไงว่ามันโบราณ? มันเก่าขนาดไหนกัน? ตรงนี้แหละคือจุดที่วิทยาศาสตร์เข้ามามีบทบาท วิทยาศาสตร์ทำให้เราทราบอายุของวัตถุโบราณ หรือโบราณสถานได้แบบมองเห็นภาพมากขึ้น อาจไม่ได้เป๊ะแบบ 100% แต่ก็พอจะเป็นไกด์นำทางให้เราได้บ้าง วิทยาการนั้นคือการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี ย้อนกลับไปเมื่อปี 1972 กลุ่มพรานป่ากลุ่มหนึ่งออกเดินป่าล่าสัตว์ จนไปเจอเข้ากับวัตถุแปลกๆชิ้นหนึ่ง หยิบขึ้นมาดูก็พบว่า วัตถุชิ้นนี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เด็ก กลุ่มพราป่าก็ไม่ได้เอะใจอะไร นึกว่าก็แค่ตุ๊กตาเก่าๆเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่หลังจากที่เขานำวัตถุชิ้นนี้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบความจริงสุดสะพรึงว่า ที่เขาเอามาไม่ใช่ตุ๊กตาเด็ก แต่เป็นศพเด็กจริงๆ ที่กลายเป็นมัมมี่โดยวิธีทางธรรมชาติ เป็นผลมาจากอากาศที่หนาวเหน็บ พร้อมกับลมชื้นที่พัดมาอยู่เรื่อยๆ

มัมมี่เด็กทารกนี้ถูกพบที่ Qilakitsoq ใกล้ๆกับ Nuussuaq Peninsula นอกชายฝั่ง Uummannaq Fjord เกาะกรีนแลนด์ หลังจากใช้วิทยาการ "หาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี"  แล้วก็พบว่า ศพเด็กอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1475 สิ่งที่พรานป่ากลุ่มนั้นเจอ ความจริงแล้วเป็นหลุมฝังศพ ซึ่งหลุมแรกมีศพของผู้หญิงอยู่ 3 ศพ และศพของเด็กชายเด็กหญิงอย่างละศพ หลุมสองเป็นศพหญิงสองศพ ศพทั้งหมดเป็นชาวอินูอิต

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือเมื่อผลตรวจเทียบเคียง DNA ออกมา กลับพบว่า ศพในหลุมนั้นเป็นญาติกันทั้งหมด ยังไม่พอ ในส่วนของศพเด็กนั้น น่าจะมีอายุราว 6 เดือน ทางผู้เชี่ยวชาญได้สันนิษฐานเอาว่าน่าจะถูกฝังทั้งเป็น! และคาดการณ์กันว่าการฝังเด็กทารกทั้งเป็นนั้นอาจเป็นหนึ่งในธรรมเนียม ประเพณีดั้งเดิมของชาวอินูอิต หากพบว่าเด็กที่เกิดมาพิกลพิการ หรือครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูได้ ก็จะนำเด็กมาฝังทั้งเป็นแบบนี้ ส่วนด้านพรานกลุ่มนั้น คงจับไข้หัวโกร๋นกันทั้งคณะเป็นแน่ ที่หอบเอามัมมี่กลับมาโดยนึกว่าเป็นตุ๊กตาเด็ก ยังไงก็ระวังกันหน่อยแล้วกันนะขาผจญภัยทุกท่าน อย่าไปเอาอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านกันล่ะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น